เปิดประสบการณ์ไป faroe islands เที่ยวเองไม่ง้อใคร

หลายท่านคงเคยประสบปัญหาที่ว่านัดเพื่อนไม่ได้ วันว่างไม่ตรงกัน พอไม่มีเพื่อนไปก็กลายเป็นว่าทริปล่มไปซะอย่างนั้น ทำให้หลายคนไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ตนเองต้องการ หลายท่านคงรู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย ยิ่งเป็นการไปเที่ยวเองที่ต่างประเทศแล้วล่ะก็ คงจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากเลยทีเดียว แต่ปัญหากวนใจเหล่านั้นจะหมดไปเมื่อบทความท่องเที่ยวของเราจะพาทุกท่านมารู้จักกับการเปิดประสบการณ์พาทุกท่านไปยังดินแดนที่แสนจะสงบเงียบไปกับการเที่ยวต่างประเทศไปยังเกาะ faroe islands แบบฉบับไปง่ายสบายกระเป๋าแบบไม่ต้องง้อใครเลย ซึ่งสถานที่นี้จะน่าสนใจและเหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวอย่างไร บทความของเราจะพาทุกท่านมาเจาะลึกให้ท่านสามารถเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวได้อย่างมีความสุขและถ้าทุกท่านพร้อมแล้วเรามาเริ่มรู้จักเกาะ faroe islands ไปพร้อมกันเลย หมู่เกาะ faroe islands เป็นหนึ่งในหมู่เกาะของประเทศเดนมาร์ก ที่มาของชื่อเกาะนี้ก็มีที่มามาจากคำท้องถิ่นที่แปลว่าเกาะแห่งเกาะ เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในกลุ่มทวีปยุโรป ซึ่งถือเป็นอีกสถานที่เที่ยวอีกที่หนึ่งที่มีความสงบสุขเนื่องจากมีประชากรอยู่ไม่ถึง 50,000 คนเท่านั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกไปเปิดโลกแสวงหาความสุขทางชีวิตที่นี่ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว เมื่อรู้จักสถานที่นี้กันดีพอสมควรแล้วหลายคนก็เริ่มสงสัยว่าเราจะเดินทางไปยังสถานที่นี้ยังไง สามารถไปได้โดยง่ายไหม ต้องบอกก่อนเลยว่าการเดินทางไปยังหมู่เกาะแห่งนี้ก็ค่อนข้างไปได้จำกัด เพราะสามารถไปได้เพียงการโดยสารเครื่องบินและทางเรือเท่านั้น และการเดินทางก็จะมีช่วงของการเข้าไปแค่เพียงบางช่วงฤดูเท่านั้น ซึ่งทางที่สะดวกที่สุดก็ต้องเดินทางไปยังแถบทวีปยุโรปและนั่งเครื่องบินหรือต่อเรือต่อมายังเกาะแห่งนี้ แต่ด้วยความจำกัดช่องทางการเดินทางนั่นทำให้การเดินทางมายังหมู่แห่งนี้มีความคุ้มค่าที่จะมาลองเที่ยวกันสักครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อเดินทางมายังเกาะแล้วก็จะได้พบกับธรรมชาติที่แสนงดงามเนื่องจากด้วยความที่เป็นหมู่เกาะจึงทำคงอยู่ถึงธรรมชาติที่หลากหลายทั้งทางน้ำและทางบก นอกจากความสวยงามทางธรมชาติแล้วก็ยังมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและสัตว์นานาชนิด และอาหารยอดฮิตของที่นี่ก็คือวาฬที่นี่ก็จะมีเทศกาลเป็นเทศกาลของการล่าวาฬซึ่งอาจจะดูน่ากลัวแต่ก็เป็นประเพณีที่ทำต่อกันมานานที่เป็นที่ยอมรับของคนที่ท้องที่ ซึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือน้ำตกที่สูงมากและหมู่บ้านสไตล์คันทรี่ตลอดแนวภูผามากมาย เหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยวมาธรรมชาติจริง ๆ

เที่ยวชมธรรมชาติที่ lofoten islands ประเทศนอร์เวย์

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติเพื่อไปสัมผัสกับบรรยากาศที่พร้อมรับกับสายลม แสงแดด ต้นไม้ป่าเขาและบรรยากาศที่สงบสุข ต่างก็มองหาสถานที่ท่องเที่ยวสักแห่งที่ถูกใจและตอบโจทย์เรื่องนี้ได้และวันนี้บทความของเราก็ขอมาแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในต่างแดนที่ประเทศแถบทวีปยุโรป อย่างประเทศนอร์เวย์ ว่าความน่าสนใจของสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างไร และความเป็นมาอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเราจะมาทำความรู้จัก lofoten islandsไปพร้อม ๆ กันเลย ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า lofoten islands ตั้งอยู่ที่ไหนยังไง lofoten เป็นหมู่เกาะที่อยู่ตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ด้วยความที่เป็นเกาะในช่วงที่นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวกันเยอะบนเกาะก็มักจะจัดกิจกรรมเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติ อย่างการพายเรือตกปลา พายเรือผจญภัย ปีนเขาดูปลาวาฬ และความพิเศษของการเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศนอร์เวย์นั่นก็ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่เป็นฉายาของประเทศนอร์เวย์นั่นก็คือการมีพระอาทิตย์เที่ยงคืนนั่นเอง ซึ่งในจุดนี้ก็ทำให้พระอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าเลย เหมาะแก่การท่องเที่ยวชอบธรรมชาติเป็นอย่างมาก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังนิยมขับรถท่องเที่ยวชมธรรมชาติทั่วเกาะอีกด้วย และการท่องเที่ยวที่หมู่เกาะแห่งนี้ความแตกต่างจากการท่องเที่ยวอื่นๆ ก็คือการเดินทางมายังหมู่เกาะแห่งนี้ในแต่ละช่วงก็จะได้รับความประทับใจและความสวยงามที่แตกต่างกัน หากเดินทางมาท่องเที่ยวยังหมู่เกาะ lofoten islands ช่วงที่เป็นหิมะท่านก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นการเดินทางมาในช่วงหิมะตกก็ไม่ทำให้อากาศหนาวเย็นจนเกินไป เนื่องจากหมู่เกาะมีธารน้ำร้อน และด้วยความที่หมู่เกาะแห่งนี้มีภูเขาอยู่เป็นจำนวนมาก ก็จะได้รับชมความงดงามที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา นอกจากนี้ก็ยังมีจุดชมวิวที่เป็นวิวภูเขาที่น่าสนใจมากมายที่สามารถเห็นแสงเหนือที่งดงามที่นอร์เวย์ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่สามารถรับชมแสงเหนือได้ มาถึงจุดนี้หลายคนก็เริ่มอยากเดินทางมายังที่แห่งนี้กันแล้วก็คงจะสงสัยว่าการเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้สามารถทำได้ด้วยอะไรบ้าง การเดินทางก็สามารถทำได้ด้วยการขับรถแต่ก็เป็นวิธีที่ต้องใช้ระยะเวลาหลายวันมาก แต่ถึงอย่างไรก็คุ้มที่จะเดินทางเพื่อแลกกับวิวที่สวยงามระหว่างการเดินทาง และนอกจากนี้ก็ยังสามารถเลือกใช้วิธีการเดินทางโดยการใช้เครื่องบิน ท้ายที่สุดนี้ก็อยากจะเชิญชวนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลงรักที่จะออกไปรับประสบการณ์ที่ธรรมชาติสามารถมอบให้ท่านได้ที่หมู่เกาะ lofoten islands ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

ท่องเที่ยวอุทยานตะรุเตาแวะเล่นน้ำเกาะหลีเป๊ะ

‘ตะรุเตา’ เป็นอุทยานแห่งชาติของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในน่านน้ำอันดามัน จัดอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสตูล จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะเป็นศูนย์รวมความงดงามจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะทั้งภูมิศาสตร์บนเกาะ และในน้ำ บนเกาะป่ามีอันอุดมสมบูรณ์ เขียวขจีน่ารื่นรมย์ เป็นบ้านของสัตว์ป่านานาชนิด ส่วนในน้ำก็เป็นความงดงามอีกหนึ่งรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มปะการังอันทรงคุณค่ามีหลากสีสวยสด ราวกับเป็นภาพวาดแห่งจินตนาการ อุทยานตะรุ ประกอบไปด้วยเกาะทั้งเล็กและใหญ่ทั้งหมด 51 เกาะ อีกทั้งยังมีพื้นที่ทั้งบนเกาะและทะเลประมาณ 1,490 ตารางกิโลเมตร ส่วนเกาะขนาดใหญ่โดยรอบมีทั้งหมด 7 เกาะ ได้แก่ เกาะตะรุเตา , เกาะอาดัง , เกาะราวี , เกาะหลีเป๊ะ, เกาะกลาง , เกาะบาตวง , เกาะบิสสี ถ้าคุณอยากทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีความงดงามมากมายขนาดไหน ก็งดงามจนได้รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกแห่งAsian เลยทีเดียว ภายในพื้นที่ของอุทยานฯ ประกอบไปด้วยจุดชมทิวทัศน์ผาโต๊ะบู บริเวณด้านบนมีศาลาให้เล่นพร้อมชมวิวอ่าวหลายแห่ง แต่ที่อยากแนะนำคืออ่าวสน โดยอ่าวนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 8 กิโลเมตร เป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล เกาะตะรุเตา เป็นเกาะท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นจึงมีบ้านพักให้เลือกสรร มากมายหลากรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักเดี่ยว […]

แวะบางปูดูนกนางนวลแล้วทานอาหารทะเล

หากใครที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วยังไม่รู้ว่าในช่วงสุดสัปดาห์อยากจะไปสัมผัสบรรยากาศแบบชิลล์พร้อมทานอาหารทะเลอร่อยๆ ได้จากที่ไหน ทั้งนี้มีข้อแม้อยู่ว่าไม่ต้องการที่จะขับรถไปไกลมากๆ ตามจังหวัดที่ติดทะเล สถานที่นี้มีอยู่จริงและติดกับกรุงเทพฯ เลยด้วยซ้ำ นั่นคือ บางปู หรือที่คนส่วนใหญ่มักจะเรียกกันติดปากว่า สถานตากอากาศบางปู ถือว่าเป็นสถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกและในช่วงหน้าหนาวคุณยังจะได้พบกับความสวยงามของเหล่าบรรดานกนางนวลที่มาบินอวดหุ่นสวยๆ ให้ได้เห็นกันแบบเต็มตา สถานตากอากาศบางปู นั้นตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยคนที่มีโอกาสได้มาสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือสถานที่ใกล้กรุงเทพฯ ที่ให้บรรยากาศดีมากๆ ยิ่งถ้าบรรยากาศจะฟินไปมากกว่านี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายน ของทุกๆ ปีจะมีฝูงนกนางนวลที่บินอพยพหนีหนาวมาจากแถบทิเบต มองโกเลีย และไซบีเรีย มาอาศัยหาอาหารกินอยู่บริเวณบางปูแห่งนี้ นั่นจึงทำให้บรรยากาศในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้พบกับความสนุกสนานในการชมนกนางนวล รวมไปถึงการให้อาหารนกนางนวลด้วย โดยเมื่อเข้ามาในสถานตากอากาศบางปูแห่งนี้ก็จะต้องเห็นสะพานสุขตา ซึ่งเป็นสะพานปูนขนาดใหญ่ทอดยาวไปเพื่อให้ผู้คนที่มาพักผ่อนได้เดินแบบสบายๆ รับอากาศเย็นๆ พร้อมทั้งดูความสวยงามของป่าชายเลนและนกที่บินวนไปเวียนมา หรือหากต้องการให้อาหารนกเหล่านี้ริมทางก็จะมีขายอาหารนกให้ได้เอาไว้ป้อนพวกมันอีกด้วย เมื่อดื่มด่ำกับความสวยงามและความสนุกสนานเหล่านี้จนหนำใจแล้วก็ได้เวลาที่ท้องกำลังเรียกหาอาหารอร่อยๆ ให้ตกลงไปเสียที เพราะเมื่อเดนิจนสุดสะพานสุขตาก็จะพบกับ ศาลาสุขใจ ศาลาที่รวบรวมความอร่อยของอาหารทะเลไว้ด้านในให้ทุกท่านได้ลองลิ้มชิมรสกันอย่างจุใจ ซึ่งถือเป็นร้านอาหารที่อยู่คู่กับสถานตากอากาศบางปูมาอย่างยาวนาน คล้ายๆ กับว่ามันเป็นจุดเด่นของสถานตากอากาศบางปูว่าเมื่อมาถึงที่นี่ก็ต้องทานอาหารที่ ศาลาสุขใจ โดยเมนูอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็มีอยู่ด้วยกันมากมาย อาทิ ปลากะพงทอดน้ำปลา, โป๊ะแตก, ปูผัดผงกะหรี่, ทอดมันกุ้ง, ยำหอยแครง, ปูทะเลไข่นึ่ง, แกงส้มกุ้งใบชะคราม และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย โดยบรรยากาศในร้านมีให้เลือกทั้งนั่งห้องแอร์หรือจะนั่งชมธรรมชาติด้านนอกก็ได้เช่นเดียวกัน เรียกว่าอิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจอย่างแท้จริงสำหรับการมาเที่ยวบางปู

สนุกที่หัวหินพร้อมรับประสบการณ์ใหม่ๆ

ถ้าพูดถึงหิวหินก็ต้องนึกน้ำทะเลสวยหาดทราบขาว ผมเองก็โชคดีพอดีที่บริษัทของผมได้จัดสัมมนาที่หัวหินเดินทางด้วยด้วยรถตู้ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงหัวหิน เมื่อไปถึงครั้งแรกก็รู้สึกแปลกใจว่าคนที่นี้เค้าเดินทางกันยังไงสำหรับคนที่มีรถเพราะที่หัวหินต้องบอกเลยถ้าไม่มีรถลำบากมากเวลาจะไปไหนมาไหนเพราะไม่ได้มีรถเมล์เหมือน กทม.ตอนผมไปนะเวลาจะไปไหนเรียกมอเตอร์ไซค์แล้วก็ไม่ได้มีทุกที่นะหายากด้วยแล้วไม่ได้มีที่หน้าที่พักของผมต้องเดินๆไปเรียกแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกดี  เมื่อไปถึงที่หมายเจอกับอากาสดีๆน้ำทะเลสวยๆทุกอย่างก็หายไปหมด และผมก็ได้เดินทางไปถึงสถานที่ เข้าหินเหล็กไฟ ที่ตั้งอยู่ห่างไปจากหิวหิน 3 กิโลจากทิศตะวันตกเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากที่หนึ่งเลย เป็นสถานที่เดียวที่มีจุดชมวิวหลายจุดสำหรับคนที่ชอบดูพระอาทิตย์ตกที่นี้จะเป็นจุดชมที่สวยมาก อีกทั้งยังมีการนำสิ้นค้าพื้นเมืองมาขายเป็นที่ระลึกร้านอาหาร สวนนกอีกด้วย และวันนี้ก็จบลงของการเที่ยวหัวหินวันแรก วันต่อมาก็เตรียมตัวเดินทางไปเขาตะเกียบ ใช้เวลาเดินทางไม่ไกลมากนักก็ถึง เมื่อมาถึงสถานที่นี้เมื่อมาถึงสถานที่นี้ก็จะรู้ทันที่ว่าถึงแล้วเพราะจะเห็นว่าเป็นเข้าสองลูกใหญ่ๆคนแถวนี้เรียกว่า เขาตะเกียบกับเข้าไกรลาส สำหรับเขาตะเกียบมีวัดตั้งอยู่สถานที่ตั้งนี้ถูกสร้างให้ยื่นออกไปในทะเล และยังมีรูปปั่นแม่กวนอิมตั้งอยู่ด้วยเป็นอีหนึ่งสถานที่ที่มุจุดชมวิวทีผมคิดว่าสวยไม่แพ้ที่อื่นเพราะจะสามารถเห็นบรรยากาศโดยรอบของหัวหินได้เมื่อมาถึงจุดสูงสุดก็นั่งคุยกับเพื่อนสบายๆได้บรรยากาศมากนั่งคุยไปคุยมาเพื่อนก็พูดถึงเรื่องแทงบอลที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งตัวผมเองเป็นคนที่ไม่เล่นแทงบอลเท่าไรเพื่อนจึงให้เว็บไซต์แทงบอลออนไลน์ให้ผมลองเล่นดู

วันหยุดนานๆที่ต้องเจอกับน้ำทะเลสะหน่อยก็ต้องที่นี้เลยอ่าวมะนาว

เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเที่ยวทะเลที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทยนั้นก็คือ อ่าวมะนาวครั้งแรกที่มีโอกาสได้ไปจั้งหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็ตรงไปที่อ่าวมะนาวนี้เลยต้องบอกเลยว่าประทับใจกับความสวยงามของน้ำทะเลและหาดมรายของที่นี้มากเหมือนได้หลุดไปอยู่ในสถานที่ไม่คอยมีใครได้มาเหยียมอย่างไรอย่างนั้นเป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก มีความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย ที่มาของชื่อก็มาจากลักษณะของหาดที่โค้งเป็นวงกลมคล้ายกับมะนาวเลยเป็นที่มาของชื่อ ที่สำคัญจากชายหาดสามารถที่จะมองเห็นเขาล้อมหมวก และเขาคลองวาฬ ต้องบอกก่อนเลยว่าผมเป็นคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นเวลาไปเที่ยวอะไรที่เกี่ยวกับน้ำมักจะไม่สนุก แต่สำหรับที่นี้น้ำไม่ลึกผมสามารถเล่นได้สนุกกว่าที่อื่นๆที่เคยไปทำให้ผมชักจะติดใจที่นี้ขึ้นมาสะแล้ว ไม่ใช่แต่บรรยากาศของสถานที่เท่านั้นที่ผมติดใจที่พักของที่นี้ก็แสนจะสบายเป็นห้องที่มีราคาไม่แพงอีกด้วย อย่างห้องที่ผมพักห้อง Pool Villa ราคาเพียง 1,600 ถ้าเทียบกับความสวยงามของห้องแล้วถือว่าถูกมาก อย่างห้องถูกราคา 1,000 บาท ก็มี ถ้าคนที่ชอบรับลมเย็นๆน้ำทะเลใสๆที่นี้เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มาก ทำให้รู้สึกว่าใช้วันหยุดคุ้มค่ามาก มีบริการชมเกาะต่างๆมากมายไปกับเรือโดยสารเข้าถึงความสวยงามได้หลายๆเกาะมีเงินสัก 3,000 ก็เที่ยวได้อย่างๆสบายๆยิ่งไปในช่วงของเทศกาลยิ่งมีความคึกคักแต่ที่พักผมก็ไม่แน่ใจว่าจะแพงขึ้นรึป่าว ก็คงแพงขึ้นเหมือนที่อื่นๆอย่างที่เรารู้ๆกัน ถ้าเที่ยวกับความสนุกแล้วถือว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน